วันนี้เราจะมาพูดถึง ประวัติและความเป็นมาของสี ความหมายที่คุณอาจจะยังไม่รู้มาก่อน สีแต่ละสีนั้นมีประวัติที่ยาวนาน ความหมายที่ต่างกัน ดังนั้นเราจึงต้องรู้จักเลือกใช้สีให้ได้ประโยชน์ของตัวสีให้ได้มากที่สุด
เว็บไซต์ประกวดออกแบบกราฟิกดีไซน์ 1.น้ำเงิน
สีน้ำเงินส่วนใหญ่เป็นสีที่ใช้เป็นทางการ ในการทหาร ทางธุรกิจ เป็นสีที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติซึ่งใช้กันทั่วไปในสมัยก่อน ยุคอียิปต์โบราณนำมาตกแต่งเครื่องเพชร พลอย โทนสีให้ความรู้สึก สุขุม นุ่มลึก น่าค้นหา
2.สีแดง
สีแดงเป็นสีที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน ย้อนกลับไปยังสมัยอียิปต์โบราณแสดงถึงความมีชีวิตชีวาและการเฉลิมฉลองจนไปถึงความชั่วร้ายและการทำลายล้าง ใช้ในภาพจิตรกรรมฝาผนังของชาวกรีกโบราณ สีแดงถือเป็นสีของอารมณ์รุนแรง ความโกรธ และความหลงใหล แต่หลายประเทศในเอเชีย เช่น อินเดียและจีน สีแดงถือว่าเป็นสีแห่งความสุข ความเป็นอยู่ และความโชคดี
3.สีเหลือง
สีเหลืองเป็นสีของแสงแดดเป็นสีสันที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ สีเหลืองเป็นสีแรกๆที่ใช้ในศิลปะถ้ำยุคก่อนประวัติศาสตร์โดยใช้ครั้งแรกมีอายุเกิน 17,300 ปี สีเหลืองมีความสัมพันธ์อันยาวนานกับโลกแห่งศิลปะ อย่างเช่นศิลปินชื่อดัง Van Gogh ที่ใช้สีเหลืองเป็นลายเซ็นแสดงถึงความอบอุ่นและความสุข
4.สีเขียว
สีเขียวเป็นสีที่สื่อถึงธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและทุกสิ่งที่เกี่ยวกับกิจกรรมกลางแจ้ง ในอดีตสีเขียวเป็นสีที่ไม่ปรากฎว่าเป็นศิลปะสมัยก่อนประวัติศาสตร์ เพราะเป็นสีที่ยากต่อการทำ ในประเทศฝั่งตะวันตกสีเขียวถูกมองว่าเป็นสีแห่งความโชคดี ความสดชื่น ในประเทศจีนและญี่ปุ่นสีเขียวเป็นสีแห่งการกำเนิดและความหวัง
5.สีส้ม
สีส้มเป็นสีที่อยู่ระหว่างสีแดงและสีเหลือง ในอดีตสีส้มถูกใช้อย่างแพร่หลายโดยชาวอียิปต์โบราณและศิลปินในยุคกลาง เม็ดสีมักทำมาจากแร่ธาตุต่างๆ ก่อนคริสต์ศักราชศตวรรษที่ 15 ชาวยุโรปจะเรียกสีส้มเป็น สีเหลืองแดง จนได้มีการรู้จักต้นไม้ที่มีสีส้ม สีส้มจึงได้รับชื่อจริงอย่างแท้จริง ในช่วงศตวรรษที่ 16 และ 17 สีส้มกลายเป็นสัญลักษณ์ของนิกายโปรเตสแตนต์และเป็นสีการเมืองที่สำคัญในอังกฤษและยุโรปภายใต้รัชสมัยของพระเจ้าวิลเลียมที่ 3 สีส้มเป็นตัวแทนของพลัง ความมีชีวิตชีวา และกำลังใจ
6.สีม่วง
สีม่วงเป็นสีที่อยู่ระหว่างสีแดงและสีน้ำเงิน สีม่วงมีประวัติอันยาวนานและสง่างาม การผลิตทำได้ด้วยความยากลำบากจึงมีราคาแพง จึงเป็นสีที่มักถูกสวมใส่โดยผู้ที่มีฐานะสูงและเชื้อสายราชวงศ์ จักรพรรดิโรมัน รวมไปถึงเหล่าขุนนางของญี่ปุ่น จนถึง 1856 เมื่อสีม่วงเป็นที่เข้าถึงของผู้คนมากขึ้น จึงได้เป็นเครื่องหมายของแฟชั่นและสไตล์แทน แต่อย่างไรก็ตามสีม่วงยังคงเป็นสีที่ใช้โดยพระราชวงศ์อังกฤษและจะยังคงเป็นสีของราชวงศ์อยู่ตลอดไป
7.สีชมพู
สีชมพูไม่ค่อยมีประวัติศาสตร์ความเป็นมาในด้านศิลปะและวัฒนธรรมเหมือนกับสีอื่นๆ เนื่องจากสมัยนั้นคนจะต้องการเฉดสีแดงไม่ก็แดงเข้มมากกว่า แต่ในยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาได้เริ่มมีการใช้สีชมพูมากขึ้นเรื่อยๆ จากนั้นจึงได้เข้าสูโลกของแฟชั่นและการออกแบบ สีชมพูถือได้ว่าเป็นสีของผู้หญิงจึงนำมาใช้กับผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่ที่เกี่ยวกับผู้หญิง
8.สีน้ำตาล
สีน้ำตาล จากการศึกษาพบว่าเป็นสีที่ผู้คนชอบน้อยที่สุด แต่สีน้ำตาลเป็นสีแรกๆที่เคยใช้ในสมัยก่อนประวัติศาสตร์และนับเป็นแก่นของศิลปะและวัฒนธรรมตั้งแต่นั้นมา เมื่อยุคก่อนสีน้ำตาลเป็นสัญลักษณ์ของชนชั้นล่าง นอกจากนี้ยังเป็นสีที่พระภิกษุสงฆ์ของลัทธิฟรานซิสใช้เป็นสัญลักษณ์แห่งความยากจนและความอ่อนน้อมถ่อมตน แต่เมื่อเข้าสู่วัฒนธรรมสมัยใหม่ สีน้ำตาลจึงเป็นสัญลักษณ์ของธรรมชาติ สุขภาพ และความหมายทางบวกมากมาย
9.สีขาว
สีขาวได้รับการคัดเลือกให้เป็นสัญลักษณ์แห่งความดีงาม จิตวิญญาณ ความบริสุทธิ์ ความนับถือ และความศักสิทธิ์ ดั่งเทพเจ้ากรีกโบราณที่ใช้สีขาวเคลือบเทวรูปไว้ ในวัฒนธรรมตะวันตกสีขาวเป็นสีคลาสสิกของชุดแต่งงานซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความบริสุทธิ์ในขณะที่วัฒนธรรมในเอเชียหลายแห่ง สีขาวเป็นสีของการไว้ทุกข์ ความเศร้าโศกและความสูญเสีย
10.สีดำ
สีดำ ถูกสร้างขึ้นโดยยุคหินที่ใช้ถ่านกระดูกเผา หรือแร่ธาตุบดต่างๆ ในประวัติศาสตร์ส่วนใหญ่ สีดำถือเป็นสัญลักษณ์แห่งความชั่วร้าย การไว้ทุกข์ และความมืด แต่เมื่อระยะเวลาผ่านไปยุคสู่ยุค สีดำได้รับความนิยมในโลกแฟชั่นอย่างรวดเร็ว และกลายเป็นสัญลักษณ์ของความเรียบง่าย
Source : https://www.canva.com